About Tutourhouse
ติว คณิต วิทย์ อังกฤษ ภาษาไทย สังคม ด้วยระบบ PRIME model ทุกสาขา มีมาตราฐานทั้งหลักสูตรและรูปแบบการให้บริการ
เคยเป็นมั้ย
อาการตาเพลีย สำหรับคนที่ชอบอ่านหนังสือ แล้วมักปวดรอบ ๆ ตา และหน้าผาก
ตาพร่ามัว ตาลายเป็นพัก ๆ เคือง แสบ หรือ มีน้ำตาไหลร่วมด้วย
นั่นเป็นสัญญาณของอาการ “ตาเพลีย”
ซึ่งมักเกิดจากการเลือกใช้แสงไฟสำหรับอ่านหนังสือที่ไม่เหมาะสม
งั้นวันนี้เรามาดูสิว่าแสงไฟแบบไหนที่เหมาะต่อการอ่านหนังสือ
#การเลือกประเภทหลอดไฟสำหรับอ่านหนังสือ
#หลอดไฟในปัจจุบันที่นิยมนำมาติดตั้งใน
โคมไฟอ่านหนังสือมีแบบ หลอดใส้ , หลอดฟลูออเรสเซนต์ , หลอดตะเกียบ , ลอด LED
#ควรเลือกใช้แบบหลอดใส้ซึ่งเป็นแสงแบบContinuous Spectrum เหมือนแสงอาทิตย์
แม้จะเปลืองไฟกว่า และร้อนกว่า แต่มีข้อดีคือ ราคาถูก
และแสงสว่างต่อเนื่องไม่กระพริบ ควรเลือกหลอดใส้แบบอินแคนเดสเซนต์สีฟ้าๆ
หลอดไส้จะให้แสงสีเหลือง พอแสงตัดกับผิวหลอดที่เป็นสีฟ้า
สีจะเปลี่ยนเป็นเหลืองอ่อน เหมาะสมกับการอ่านหนังสือที่สุด
image: http://files.unigang.com/pic/4/8366.jpg
image: http://files.unigang.com/pic/4/8367.jpg
# หลอดไฟแนะนำสำหรับการอ่านหนังสือ คือ หลอดอินแคนเดสเซนต์? inverter
ตัวอย่าง โคมไฟ จะเขียนบอกชัดเจนว่าเป็น แบบ inverter Lamp
image: http://files.unigang.com/pic/4/8369.jpg
ตำแหน่งการฉายไฟที่ถูกต้อง
#เพื่อให้แสงที่ตกสะท้อนจากกระดาษไม่
ตกเข้าตา และไม่เกิดเงาบังขณะเขียนหนังสือ สำหรับคนถนัดขวา
ถ้าเลือกใช้โคมไฟแบบตั้งโต๊ะ ควรให้แสงไฟเข้าจากทางด้านหน้า-ซ้าย
แต่ถ้าเลือกใช้โคมไฟแบบอ้อมด้านหลัง
ควรให้โคมฉายไฟจากเยื้องหลังข้ามไหล่ซ้าย
เพื่อมิให้เกิดเงาบังขณะเขียนหนังสือ
#เมื่อเตรียมแสงสว่างพร้อมแล้ว ก็อ่านหนังสือกันเยอะๆ
#จดไว้ : การวางหนังสือที่ดี หนังสือควรอยู่ในแนวตั้ง ทำมุมประมาณ 40 - 80
องศากับโต๊ะ แล้วแต่ลักษณะทางกายภาพของแต่ละบุคคล
ซึ่งเป็นมุมมองที่ทำให้อ่านหนังสือ ง่าย สบายตาที่สุด
โดยไม่ต้องก้มหน้าอ่าน ไม่ปวดคอ หรือจะใช้ที่ตั้งวางหนังสือสำเร็จรูปก็ได้
หลังควรพิงพนักเก้าอี้ หลังจะได้ตรง ร่างกายจะผ่อนคลาย
ทำให้อ่านหนังสือได้นานและดีต่อสุขภาพ
Credit http://office.dpt.go.th/ เรียบเรียง http://www.unigang.com/Article/27456